วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์


บทที่ 2

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

                คอมพิวเตอร์ หมายถึง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทำหน้าที่เสมือนสมองกลใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์

1.ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์
                1.1 การปฏิบัติงานอัตโนมัติ  (self acting) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ ในการประมวลผลข้อมูลตามลำดับคำสั่ง ได้อย่างถูกต้อง ต่อเนื่อง โดยอัตโนมัติ ตามคำสั่งและขั้นตอนที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นผู้กำหนดไว้
                1.2 ความเร็ว (speed) เป็นความสามารถในการประมวลผลข้อมูลภายในเวลาที่สั้นที่สุด ความเร็วในการประมวลผลจะเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ ความเร็วในการประมวลผลจะถูกกำหนดโดยหน่วยประมวลผลในซีพียู ซึ่งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถประมวลผลได้มากกว่าล้านคำสั่งต่อวินาที
                1.3 การจัดเก็บข้อมูล (storage) เป็นความสามารถในการเก็บข้อมูลในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถจัดเก็บได้เป็นจำนวนมากและสามารถเก็บได้เป็นระยะเวลานาน
                1.4 ความน่าเชื่อถือ (reliability) เป็นความสามารถที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคำสั่งและข้อมูล เพื่อกำหนดความน่าเชื่อถือของคอมพิวเตอร์ นั่นคือ ถ้าป้อนคำสั่งหรือใช้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร
                1.5 ความถูกต้องแม่นยำ (accuracy) เป็นความถูกต้องแม่นยำของการคำนวณของเครื่องคอมพิวเตอร์
                1.6 การทำงานซ้ำ ๆ (repeatability) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถวนทำงานคำสั่งซ้ำๆ ได้ ขึ้นกับโปรแกรมที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น
                1.7 การติดต่อสื่อสาร (communication) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถวนทำงานซ้ำๆ ได้ ขึ้นกับโปรแกรมที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น
2. หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
                2.1 มีการรับข้อมูลคำสั่งเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านหน่วยรับข้อมูล/คำสั่ง
                2.2  ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยประมวลผลกลางเพื่อทำการประมวลผลตามคำสั่งที่ตั้งไว้
                2.3 ในขณะที่ทำการประมวลผลหน่วยความจำหลักและทำหน้าที่เก็บคำสั่งต่างๆ ในการประมวลผล
                2.4 เมื่อประมวลผลเสร็จแล้ว ผลลัพธ์จะถูกเก็บที่หน่วยความจำสำรอง

                2.5 หน่วยแสดงผลทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผล
ประเภทของคอมพิวเตอร์
                แบ่งตามสมรรถนะและประสิทธิภาพในการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นหลัก แบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ ได้ดังนี้
1. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
            เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทำงานสูงกว่าคอมพิวเตอร์แบบอื่นๆ สามารถคำนวณตัวเลขที่มีจุดทศนิยมด้วยความเร็วสูงขนาดหลายร้อยล้านคำสั่ง/วินาที เหมาะกับงานที่มีการคำนวณมากๆ เช่น งานวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียม
2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์
                เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมากถัดจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถประมวลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วหลายสิบล้านคำสั่ง/วินาที เหมาะกับการใช้งานด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับข้อมูลมาก ๆ เช่น งานธนาคาร
3. มินิคอมพิวเตอร์
                เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะต่ำกว่าเครื่องเมนเฟรม ทำงานได้ช้ากว่า ควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่าและราคาก็ถูกกว่าเครื่องเมนเฟรม
4. ไมโครคอมพิวเตอร์
                ไมโครคอมพิวเตอร์ นิยมเรียกอีกอย่างว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก ในปัจจุบันมีการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอย่างแพร่หลาย เนื่องจากราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่แพงรวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานสูง สามารถจำแนกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตามขนาดของเครื่องและลักษณะของการใช้งาน ได้ดังนี้คือ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ และคอมพิวเตอร์แบบพกพา

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
มีหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาใช้งาน มีดังนี้
                1. คำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก
                2. งบประมาณ
                3. ทำการพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ของคอมพิวเตอร์เพื่อประกอบการซื้อ ได้แก่
                                3.1 ความเร็วของซีพียูหรือหน่วยประมวลผล
                                3.2 ความจุของแรม
                                3.3 ความจุของฮาร์ดดิสก์
                                3.4 พอร์ตในการเชื่อมต่ออุปกรณ์
                                3.5 อุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
                                3.6 หน้าจอแสดงผล
                                3.7 บริการหลังการขายและการรับประกันตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
                                3.8 ในส่วนของการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพา สิ่งที่ต้องพิจารณา                 เพิ่มด้วยคือ ระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่

การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์
                1. ทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยผ้าแห้งทุกครั้ง
                2. ต้องทำความสะอาดเครื่องขณะที่ปิดเครื่องเท่านั้น
                3. ในกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ควรจัดวางคอมพิวเตอร์ในที่ปลอด            โปร่ง ไม่ควรตั้งในมุมอับ เพราะจะทำให้การระบายความร้อนของพัดลมระบาย                อากาศทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
                4. ในกรณีที่ใช้สเปรย์ ไม่ควรฉีดน้ำยาลงที่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง
                5. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำและกินของขบเคี้ยวใกล้คอมพิวเตอร์
                6. ในกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ควรจัดหาซอฟต์เคสสำหรับเครื่อง             คอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการกระแทกจากการตกหล่นของเครื่องคอมพิวเตอร์
                7. ยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา โดยการปิด โปรแกรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานทุกครั้ง ปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เช่น ปิดการใช้          งานบลูทูธ และปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกครั้งเมื่อหยุดใช้งาน